นายนพขอยอมรับว่า ตอนแรกไม่เคยคิดจะติดตามละครที่อยู่ในกระแส โดยเฉพาะซีรีส์ "ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น"
ในปีที่แล้ว มันหนักจนรู้สึกถูกยัดเยียด
ขนาดที่ว่าไม่ได้ติดตามชมก็สามารถรับรู้เรื่องราวในซีรีส์ผ่านการสื่อสารออ
นไลน์อื่น ๆ เช่น เฟซบุค ทวิตเตอร์ ได้อย่างสบาย ๆ
สำหรับ
"ฮอร์โมน ซีซั่นที่ 2" นี้
นายนพผู้ไม่เคยติดตามซีรีส์ชื่อดังมาตั้งแต่ซีซั่นหนึ่ง
การเข้ามามีบทบาทกับการดำเนินเรื่องของ "ก้อย" เพื่อนสนิทดาว
ทำให้นายนพนึกเสียดาย ว่าทำไมไม่ดูเรื่องนี้ตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว(ฟะ)
เพราะนอกจากหน้าตาที่สะสวยแบบไทย ตาโต คิ้วเข้ม จมูกโด่ง
ใบหน้าเรียวรูปไข่และรอยยิ้มที่มีเสน่ห์จนดึงดูดสายตาแล้ว
บทบาทและพัฒนาการด้านฝีมือการแสดงของเธอก็เป็นที่กล่าวถึงในหมู่ผู้ชมซีรีส์
เรื่องนี้อย่างมาก พูดได้ว่า เรียกน้ำตาและดึงอารมณ์ของผู้ชมได้ไม่ยากเลย
"ก้อย" เพื่อนสนิทของดาว รับบทโดย เบลล์ เขมิศรา พลเดช
อายุ 19 ปี ปัจจุบันศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์
หลักสูตรอังกฤษและอเมริกันศึกษา (BAS) และเป็นพิธีกรรายการแก๊งค์เม้นท์
ทุกวันพฤหัสบดี 18.00-19.00น. ทางช่อง GTH On Air
ช่องเดียวกันกับที่ฉายซีรีส์ฮอร์โมนซีซั่น 2 นั่นแหละ
ใน
มุมมองของนายนพ หากกล่าวว่าน้องเบลล์แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการจากบทบาทของ
"หญิงรักหญิง" ที่เริ่มเผยให้เห็นในตอนที่ 4 ที่มีชื่ออย่างเฉพาะเจาะจงว่า
"ดาว ก้อย" นี้ ก็คงจะไม่ผิดนัก
ด้วยการแสดงสีหน้าและอารมณ์ที่ทำให้เห็นชัดเจน ความเป็นห่วงในแววตา
การเล่นสนุกกันระหว่างเพื่อนที่ทำให้ความสัมพันธ์มากเกินกว่าเพื่อน "น้องเบลล์"
สามารถแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ของตัวละครผ่านสีหน้าและท่าทางได้เป็นอย่างดี
จนผู้ชมหลายคนถึงกับเอ่ยว่าดูแล้วเห็นใจ สงสาร
จนต้องเสียน้ำตาให้กับฉากสารภาพรักที่ไม่มีคำว่ารักแม้แต่คำเดียว
ในห้องน้ำของโรงเรียนนาดาวบางกอก
ความ สะเทือนใจอยู่ที่บทของนักแสดง ความขัดแย้งระหว่างตัวตนกับโลกภายนอก การเว้าวอนและการปิดบัง ทั้งปิดบังต่อตนเองและสังคมมัธยมปลายที่มีแต่คนจ้องจะล้อหน้าล้อหลัง สถานภาพทางสังคมของคนรัก หลายปัจจัยบีบอีดตัวละครทั้งสอง มันคือรักในมุมลับที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อหน้าใคร ๆ ได้
ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องหญิงรักหญิง (รวมถึงชายรักชายอย่างภู-ธีร์) ในซีรีส์ตอนล่าสุด ยังทำให้เกิดการพูดคุย ถกเถียงประเด็นเรื่องเพศที่สาม และแนวคิดเรื่องการยอมรับและทำความเข้าใจของสังคม ครอบครัว เกี่ยวกับความสอดคล้องหรือสวนทางระหว่างเพศสภาพกับเพศวิถีอีกด้วย
ใน ฐานะคนดูสามัญที่ไม่มีความรู้เรื่องแอคติ้งมากมาย ฝีมือการแสดงของน้องเบลล์ในฉากดราม่า อาจจะดูยังย้วย ๆ ไปนิดหน่อย แต่ถือว่าสำหรับนักแสดงหน้าใหม่และยังเด็กมาก สดมากอย่างน้องเบลล์ ถือว่าทำได้ดีจริง ๆ ดีกว่าดาราที่เห็นกันทั่วไปในฟรีทีวีบางคนเสียอีก การออกอากาศในวันนั้น นายนพดูไปก็น้ำตาหยดแหมะ ๆ อยู่หน้าจอทีวีเลยทีเดียวเชียว หลาย ๆ ฉากดูกลมกล่อมเหลือเกิน
ใน
ซีรีส์ฮอร์โมน ซีซั่น 2 ทีมเขียนบทและโปรดิวเซอร์ ยังคงเอกลักษณ์ของ
"ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น" ด้วยการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา
การนำเสนอปัญหาความรุนแรง เพศ
และยาเสพติดในวัยรุ่นแบบที่จับต้องได้
ทำให้ผู้ชมหลายคนมองว่าเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยง
ขณะที่เหล่าสาวกของซีรีส์เรื่องนี้กลับมีมุมมองที่ต่างออกไป
กล่าวได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ ได้พูดแทนใจของพวกเขา
ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเขาอยากจะพูด แต่ไม่มีโอกาสได้พูด
หรือพูดแล้วแต่ไม่มีคนฟัง ทั้งนี้ทั้งนั้น
ประเด็นที่ผู้ทำซีรีส์สื่อสารออกมา
มิใช่นำเสนอว่าเสิ่งเหล่านั้นเหมาะสมควรทำตามเท่านั้น
แต่เป็นการนำเสนอถึง "ผลเสีย"
จากการกระทำที่ขาดความยั้งคิดของวัยรุ่นอย่างเป็นรูปธรรมด้วย
ซึ่งในขณะนี้
ถึงแม้ว่าจะล่วงเลยเข้าสู่ซีซั่นที่ 2 แล้ว แต่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.)
เพิ่งมีการนำวาระเรื่องร้องเรียนที่มีต่อฮอร์โมนส์ซีซั่น 1 มาพิจารณา
เพื่อหาแนวทางการแก้ไขที่ยั่งยืนร่วมกัน
ระหว่างคนทำสื่อและหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบในการดูแลการนำเสนอเนื้อหาละครสู่สังคม
แม้
จะนำเสนอเรื่องราวในซีซั่นที่ 2 ได้เพียง 4 ตอนเท่านั้น
แต่ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น และความสัมพันธ์ของตัวละครที่ซับซ้อน
ก็สามารถทำให้คนที่ไม่เคยสนใจติดตามอย่างนายนพ ต้องนั่งเขียนบล็อกอีกครั้ง
เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปีเชียวนะวุ้ยย... น่าลุ้นเหลือเกินว่า
สาวกฮอร์โมนส์และแฟนคลับน้องเบลล์ จะได้เห็นการ "ปล่อยของ"
ออกมาในซีซั่นนี้อีกมากน้อยแค่ไหน ต้องอดใจรอและติดตามซีรีส์เรื่องนี้
อย่าพลาด!!!
อ้างอิงข้อมูลส่วนตัวและรูปจาก : Postjung.com, GTH, Twitter
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น