วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เบลล์ เขมิศรา พลเดช : นักแสดงหน้าใหม่ ฝีมือไม่ใหม่

นายนพขอยอมรับว่า ตอนแรกไม่เคยคิดจะติดตามละครที่อยู่ในกระแส โดยเฉพาะซีรีส์ "ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น" ในปีที่แล้ว มันหนักจนรู้สึกถูกยัดเยียด ขนาดที่ว่าไม่ได้ติดตามชมก็สามารถรับรู้เรื่องราวในซีรีส์ผ่านการสื่อสารออ นไลน์อื่น ๆ เช่น เฟซบุค ทวิตเตอร์ ได้อย่างสบาย ๆ

สำหรับ "ฮอร์โมน ซีซั่นที่ 2" นี้ นายนพผู้ไม่เคยติดตามซีรีส์ชื่อดังมาตั้งแต่ซีซั่นหนึ่ง การเข้ามามีบทบาทกับการดำเนินเรื่องของ "ก้อย" เพื่อนสนิทดาว ทำให้นายนพนึกเสียดาย ว่าทำไมไม่ดูเรื่องนี้ตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว(ฟะ) เพราะนอกจากหน้าตาที่สะสวยแบบไทย ตาโต คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ใบหน้าเรียวรูปไข่และรอยยิ้มที่มีเสน่ห์จนดึงดูดสายตาแล้ว บทบาทและพัฒนาการด้านฝีมือการแสดงของเธอก็เป็นที่กล่าวถึงในหมู่ผู้ชมซีรีส์ เรื่องนี้อย่างมาก พูดได้ว่า เรียกน้ำตาและดึงอารมณ์ของผู้ชมได้ไม่ยากเลย


"ก้อย" เพื่อนสนิทของดาว รับบทโดย เบลล์ เขมิศรา พลเดช อายุ 19 ปี ปัจจุบันศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ หลักสูตรอังกฤษและอเมริกันศึกษา (BAS) และเป็นพิธีกรรายการแก๊งค์เม้นท์ ทุกวันพฤหัสบดี 18.00-19.00น. ทางช่อง GTH On Air ช่องเดียวกันกับที่ฉายซีรีส์ฮอร์โมนซีซั่น 2 นั่นแหละ

ใน มุมมองของนายนพ หากกล่าวว่าน้องเบลล์แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการจากบทบาทของ "หญิงรักหญิง" ที่เริ่มเผยให้เห็นในตอนที่ 4 ที่มีชื่ออย่างเฉพาะเจาะจงว่า "ดาว ก้อย" นี้ ก็คงจะไม่ผิดนัก ด้วยการแสดงสีหน้าและอารมณ์ที่ทำให้เห็นชัดเจน ความเป็นห่วงในแววตา การเล่นสนุกกันระหว่างเพื่อนที่ทำให้ความสัมพันธ์มากเกินกว่าเพื่อน "น้องเบลล์" สามารถแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ของตัวละครผ่านสีหน้าและท่าทางได้เป็นอย่างดี จนผู้ชมหลายคนถึงกับเอ่ยว่าดูแล้วเห็นใจ สงสาร จนต้องเสียน้ำตาให้กับฉากสารภาพรักที่ไม่มีคำว่ารักแม้แต่คำเดียว ในห้องน้ำของโรงเรียนนาดาวบางกอก

ความ สะเทือนใจอยู่ที่บทของนักแสดง ความขัดแย้งระหว่างตัวตนกับโลกภายนอก การเว้าวอนและการปิดบัง ทั้งปิดบังต่อตนเองและสังคมมัธยมปลายที่มีแต่คนจ้องจะล้อหน้าล้อหลัง สถานภาพทางสังคมของคนรัก หลายปัจจัยบีบอีดตัวละครทั้งสอง มันคือรักในมุมลับที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อหน้าใคร ๆ ได้

ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องหญิงรักหญิง (รวมถึงชายรักชายอย่างภู-ธีร์) ในซีรีส์ตอนล่าสุด ยังทำให้เกิดการพูดคุย ถกเถียงประเด็นเรื่องเพศที่สาม และแนวคิดเรื่องการยอมรับและทำความเข้าใจของสังคม ครอบครัว เกี่ยวกับความสอดคล้องหรือสวนทางระหว่างเพศสภาพกับเพศวิถีอีกด้วย


ใน ฐานะคนดูสามัญที่ไม่มีความรู้เรื่องแอคติ้งมากมาย ฝีมือการแสดงของน้องเบลล์ในฉากดราม่า อาจจะดูยังย้วย ๆ ไปนิดหน่อย แต่ถือว่าสำหรับนักแสดงหน้าใหม่และยังเด็กมาก สดมากอย่างน้องเบลล์ ถือว่าทำได้ดีจริง ๆ ดีกว่าดาราที่เห็นกันทั่วไปในฟรีทีวีบางคนเสียอีก การออกอากาศในวันนั้น นายนพดูไปก็น้ำตาหยดแหมะ ๆ อยู่หน้าจอทีวีเลยทีเดียวเชียว หลาย ๆ ฉากดูกลมกล่อมเหลือเกิน


ใน ซีรีส์ฮอร์โมน ซีซั่น 2 ทีมเขียนบทและโปรดิวเซอร์ ยังคงเอกลักษณ์ของ "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น" ด้วยการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา การนำเสนอปัญหาความรุนแรง เพศ และยาเสพติดในวัยรุ่นแบบที่จับต้องได้ ทำให้ผู้ชมหลายคนมองว่าเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยง ขณะที่เหล่าสาวกของซีรีส์เรื่องนี้กลับมีมุมมองที่ต่างออกไป กล่าวได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ ได้พูดแทนใจของพวกเขา ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเขาอยากจะพูด แต่ไม่มีโอกาสได้พูด หรือพูดแล้วแต่ไม่มีคนฟัง ทั้งนี้ทั้งนั้น ประเด็นที่ผู้ทำซีรีส์สื่อสารออกมา มิใช่นำเสนอว่าเสิ่งเหล่านั้นเหมาะสมควรทำตามเท่านั้น แต่เป็นการนำเสนอถึง "ผลเสีย" จากการกระทำที่ขาดความยั้งคิดของวัยรุ่นอย่างเป็นรูปธรรมด้วย

ซึ่งในขณะนี้ ถึงแม้ว่าจะล่วงเลยเข้าสู่ซีซั่นที่ 2 แล้ว แต่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) เพิ่งมีการนำวาระเรื่องร้องเรียนที่มีต่อฮอร์โมนส์ซีซั่น 1 มาพิจารณา  เพื่อหาแนวทางการแก้ไขที่ยั่งยืนร่วมกัน ระหว่างคนทำสื่อและหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบในการดูแลการนำเสนอเนื้อหาละครสู่สังคม


แม้ จะนำเสนอเรื่องราวในซีซั่นที่ 2 ได้เพียง 4 ตอนเท่านั้น แต่ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น และความสัมพันธ์ของตัวละครที่ซับซ้อน ก็สามารถทำให้คนที่ไม่เคยสนใจติดตามอย่างนายนพ ต้องนั่งเขียนบล็อกอีกครั้ง เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปีเชียวนะวุ้ยย...  น่าลุ้นเหลือเกินว่า สาวกฮอร์โมนส์และแฟนคลับน้องเบลล์ จะได้เห็นการ "ปล่อยของ" ออกมาในซีซั่นนี้อีกมากน้อยแค่ไหน ต้องอดใจรอและติดตามซีรีส์เรื่องนี้ อย่าพลาด!!!



อ้างอิงข้อมูลส่วนตัวและรูปจาก : Postjung.com, GTH, Twitter

ไม่มีความคิดเห็น: